Wacoal Maternity Support Wacoal Maternity Support ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด ช่วยเก็บกระชับหน้าท้องหลังคลอด มาพร้อมสายรัด Double Fit สามารถปรับระดับความกระชับได้ตามต้องการ มีแผ่นยางพาราช่วย Support และบรรเทาอาการปวดหลังจากการตั้งครรภ์ และ Spiral Bone ที่สามารถช่วยปรับสรีระให้คุณแม่มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ข้อดี Wacoal Maternity Support เนื้อผ้าผลิตจากเส้นใย Cotton Micro Nylon ให้ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคือง ด้านหลังมีแผ่น Support ที่ผลิตจากยางพารา ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวกและสบายตัว 5. Sara Beauty London Waist Trainer Sara Beauty London ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เพื่อการบีบรัดที่เหมาะสม และให้คุณแม่รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ เนื้อผ้าได้รับการออกแบบจากประเทศอังกฤษ วัสดุภายนอกผลิตจากยางพารา 100% ทำให้สามารถรักษารูปร่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนวัสดุภายในใช้ผ้าฝ้าย 96% เพื่อเพิ่มความสบายมากขึ้น ข้อดี Sara Beauty London Waist Trainer มีตะขอมาตรฐาน 9 ชิ้น สามารถปรับได้ 3 ระดับ ผลิตจากน้ำยางธรรมชาติ ผ้าฝ้าย และโพลีเอสเตอร์ 6. Belly Bandit BFF Belly Wrap Belly Bandit ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอดที่มีมานานกว่าทศวรรษ ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีแถบตีนตุ๊กแกที่ช่วยให้ปรับขนาดได้ถึง 9 นิ้ว และยางยืดที่ช่วยในการบีบรัดกล้ามเนื้อแกนกลาง รองรับท่าทางต่าง ๆ ได้ดี และบรรเทาอาการปวดหลังได้ ข้อดี Belly Bandit BFF Belly Wrap มีความยืดหยุ่นสูง โอบกระชับร่างกายได้ดี ปราศจากยางธรรมชาติ 100% สามารถเพิ่มขนาดได้ถึง 9 นิ้ว ช่วยลดอาการเจ็บปวดจากการเสียดสีกับแผลบริเวณหน้าท้องได้ดี 7.
เดินบ่อยๆ เนื่องจากการผ่าคลอดจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าการคลอดธรรมชาติและยังเสี่ยงต่อภาวะเลือดอุดตันที่ขาอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเดินบ่อยๆ ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าหลังคลอดวันแรก แพทย์จะให้คุณแม่ลุกเดินทันทีโดยอาจจะเดินได้น้อยหรือเดินได้มากก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณแม่ฟื้นตัวเร็วขึ้นและไม่เกิดภาวะเลือดอุดตันตามมานั่นเอง และที่สำคัญคุณแม่ควรเดินตัวตรงไม่ควรเดินหลังงอเป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้คุณแม่หลังคู้ได้ เนื่องจากการผ่าคลอดที่มดลูกจะไปสัมพันธ์กับกระดูกสันหลังด้วยนั่นเอง 2. นอนพักผ่อนให้มาก นอกจากลุกเดินบ่อยๆ แล้ว คุณแม่ก็ควรนอนพักผ่อนให้มากๆ ด้วยนะคะ หรือไม่งั้นก็อาจจะออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์รอบๆ บ้านบ้าง เพียงแค่นี้คุณแม่ก็จะฟื้นตัวเร็วและมีสุขภาพแข็งแรงแล้วล่ะ 3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การที่คุณแม่เสียเลือดไปจำนวนมากในขณะผ่าคลอดก็เป็นการเสียน้ำเป็นจำนวนมากไปเช่นกัน จึงทำให้ร่างกายของคุณแม่อ่อนเพลียและมักจะหน้ามืดบ่อยๆ ดังนั้นคุณแม่ควรดื่มน้ำให้มากๆ ซึ่งหากดื่มได้มากกว่าวันละ 8 แก้วก็จะดีมากเลยล่ะ 4.
หลีกเลี่ยงนมวัวหลังคลอด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้โปรตีนจากนมวัวของลูก ลดความเสี่ยงต่ออาการกรดไหลย้อนในเด็ก และการอุจจาระผิดปรกติ ในช่วงให้นมของคุณแม่ลูกอ่อนก็ควรหลีกเลี่ยงอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนมวัวด้วยนะคะ 8. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแก๊สเยอะหลังคลอด เช่น ดอกกะหล่ำปลี บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี ลูกพรุน นอกจากจะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวได้ ยังอาจทำให้ทารกมีลมในกระเพาะอาหาร แน่นท้อง ท้องอืดได้ด้วยค่ะ ตัวอย่างอาหารที่แม่ลูกอ่อนหลังคลอดห้ามกิน มีอะไรบ้าง 1.
ซูชิ ซาชิมิ ช่วงนี้แนะนำให้คุณแม่งดทานของดิบสักระยะ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการอาหารเป็นพิษค่ะ เลือกรับประทานแต่อาหารที่ปรุงสุกจะดีที่สุดเลย 3. อาหาร ผลไม้ที่มีรสหวานจัดและแป้งเยอะ เช่น เค้ก ทุเรียน เป็นต้น เนื่องจากช่วงหลังคลอดร่างกายคุณแม่ยังกลับมาไม่ปรกติสมบูรณ์ ระบบย่อยในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ การทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง และน้ำตาลสูงย่อยยาก ทำให้คุณแม่มีอาการอึดอัด ไม่สบายตัวได้ง่ายค่ะ 4. ส้มตำหรือยำรสจัด สำหรับเมนูแซ่บๆ รสจัด แนะนำให้เลี่ยงเอาไว้ดีกว่าในช่วงหลังคลอดค่ะ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้ลูกไม่ยอมเข้าเต้า หรือมีอาการหงุดหงิดงอแง เพราะน้ำนมแม่มีกลิ่นฉุนจากเครื่องเทศรสจัดต่างๆ 5.
6 ปัญหาแม่หลังคลอด พร้อมวิธีรับมือและแก้ไข 2. 7 ข้อห้ามสำหรับคุณแม่หลังคลอด.. เพื่อสุขภาพดี! 3. 13อาการผิดปกติหลังคลอด ที่ควรรีบพบแพทย์ เรียบเรียงโดย: Mamaexpert Editorial Team
การผ่าตัดคลอดบุตร เป็นวิธีการคลอดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากในขณะผ่าคลอดนั้นแพทย์จะฉีดยาสลบ ซึ่งจะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่วิธีนี้แพทย์ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้คุณแม่คลอดด้วยวิธีนี้ เพราะจะมีโอกาสเสี่ยงสูง อีกทั้งยังฟื้นตัวได้ช้ากว่าการคลอดธรรมชาติและแผลผ่ามักจะใช้เวลานานกว่าจะหายอีกด้วย แต่หากจำเป็นต้องผ่าคลอดจริงๆ วันนี้เราก็มีวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดมาฝากกันค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง งั้นเราไปดูกันเลยค่ะ ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดตามคำแนะนำของแพทย์ 1. ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ แผลผ่าคลอดจะต้องระวังมากกว่าแผลฝีเย็บ เพราะมีโอกาสเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าและยังเสี่ยงต่อการที่แผลแยกหรือแผลเย็บไม่ติดมากกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ แผลฝีเย็บเพียงแค่วันแรกก็สามารถโดนน้ำได้เลย แต่แผลผ่าคลอดจะโดนน้ำไม่ได้จนกว่าแผลจะเริ่มหายดี เพราะฉะนั้น หลังผ่าคลอดคุณแม่จะต้องระวังเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ โดยช่วงนั้นคุณแม่อาจจะงดอาบน้ำไปก่อนเลยก็ได้ค่ะ หรือหากเหนียวตัวก็อาจจะใช้วิธีเช็ดตัวแทนก็ได้ แค่นี้คุณแม่ก็จะสบายตัวขึ้นแล้วล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแผลจะไม่โดนน้ำคุณแม่ก็ควรระวังไม่ให้มีเหงื่อด้วย เพราะเหงื่อจะทำให้แผลอับชื้นจนแผลแยกหรือแผลไม่ติดได้เช่นกัน 2.
ตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage, PPH) การตกเลือดหลังคลอด หมายถึง การเสียเลือดมากกว่า 500 มล. (ครึ่งลิตร) หลังการคลอดทางช่องคลอด หรือมากกว่า 1, 000 มล.
ทำไมหลังคลอดต้องใช้? เคล็ดไม่ลับ ลดหุ่นคุณแม่หลังคลอด ดูวิธีไหนลดแคลเท่าไหร่ ตามไปดู! หมายเหตุ: ลิงก์ของสินค้าที่ระบุไว้มีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาสินค้าเท่านั้น การซื้อสินค้าถือเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ดุลยพินิจของผู้อ่านเอง เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการรับผิดชอบต่อปัญหาการทำธุรกรรมและปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น หากคุณซื้อสินค้าผ่านโพสต์นี้ theAsianparent อาจได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อย โดยราคาของสินค้าที่แสดงนั้นจะเป็นราคา ณ วันที่มีการเผยแพร่โพสต์นี้ อย่างไรก็ดี สินค้าอาจจะหมดหรือมีการเปลี่ยนแปลงราคาในภายหลังได้. มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
ล้างแผลตามคำแนะนำของแพทย์ คุณแม่บางคน ต้องตัดไหม ขึ้นอยู่กับว่า คุณหมอเย็บแผลด้วยวิธีไหน ปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ต้องตัดไหม แต่ถ้าคุณแม่เย็บแบลด้วยไหม ที่ต้องตัด หลังตัดไหมเรียบร้อยแล้วแพทย์อาจจะให้ล้างแผลทุกวัน เพื่อให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น แต่การล้างแผลในที่นี้ไม่ได้หมายถึงล้างด้วยน้ำนะคะ แต่หมายถึงล้างด้วยแอลกอฮอล์และเช็ดด้วยยาเหลืองนั่นเอง โดยช่วงแรกๆ จะยังคงล้างแผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อตไปก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผลและป้องกันแผลอักเสบ 3. ลุกนั่งด้วยท่าตะแคง หลังผ่าคลอดคุณแม่จะลุกนั่งตามใจชอบไม่ได้แล้วนะ เพราะแผลที่ยังไม่หายดีอาจจะปริจนต้องเย็บไหมได้เสมอ และอาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงหากไม่ลุกนั่งให้ถูกวิธีอีกด้วย ดังนั้นคุณแม่ควรลุกนั่งด้วยท่าตะแคงหรือแม้แต่เวลานอนก็ควรนอนตะแคงไปก่อน นอกจากนี้ เวลาจะลุกหรือจะนั่งก็ต้องค่อยๆ ลุกโดยใช้มือช่วยพยุงตัวไปด้วย แค่นี้ก็จะช่วยลดอาการเจ็บแผลได้แล้วล่ะ แถมไม่ทำให้แผลปริอีกด้วย 4. ปรับหัวนอนให้สูง การปรับหัวนอนให้สูงขึ้นจะช่วยให้แผลผ่าที่หน้าท้องไม่ตึงจนเกินไป และช่วยลดอาการเจ็บแผลได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากเตียงนอนของคุณสามารถปรับหัวนอนได้ ก็ควรปรับให้สูงขึ้น แต่หากไม่สามารถปรับได้ ก็อาจจะนอนหนุนหมอนหลายๆ ใบก็ได้ค่ะ แต่เลือกหมอนที่นุ่มๆ หน่อยนะ ไม่งั้นก็จะทำให้คุณเจ็บคอแทนได้นั่นเอง ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด ของแม่ท้องผ่าตัดคลอดทั่วไป 1.