5 นิ้ว ผู้หญิง ไม่เกิน 31. 5 นิ้ว การวัดอัตราส่วนเอวต่อสะโพก เป็นการวัดโดยนำรอบเอวมาเปรียบเทียบกับความสูง ซึ่งจะให้ผลที่ดีกว่าการวัดรอบเอวเพียงอย่างเดียว โดยค่าที่ได้ซึ่งดีต่อสุขภาพคือ รอบเอวจะต้องน้อยเกินกว่าครึ่งหนึ่งของความสูง ทั้งนี้เมื่อได้ข้อมูลต่าง ๆ ครบแล้ว แพทย์จะนำมาวินิจฉัยหาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่งว่าผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงสุขภาพหรือไม่ ค่าดัชนีมวลกายสูง และเป็นโรคอ้วน เสี่ยงกับโรคอะไรบ้าง?
5 ในชาย และ 34. 4 ในหญิง มีภาวะอ้วน ขณะที่ร้อยละ 15. 4 ในชาย และ 36. 1 ในหญิง มีภาวะอ้วนลงพุง วิธีการการคัดกรองภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน 1. ดัชนีมวลกาย ( Body mass index) เป็นค่าดัชนีความสัมพันธ์ระหว่างส่วนสูง และน้ำหนักตัว โดยคำนวณจากน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยความสูง (เมตรยกกำลังสอง) องค์การอนามัยโลกได้มีการแบ่งเกณฑ์ค่าระดับดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อใช้เป็นแบบคัดกรองภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โดยค่าดัชนีมวลกาย มากกว่าหรือเท่ากับ 25 กก. /ตร. เมตรแสดงว่า เริ่มมีภาวะน้ำหนักเกิน และค่าดัชนีมวลกายที่ 30 กก. เมตร หมายถึง อ้วน สำหรับประชากรในเอเชีย มีข้อเสนอจุดตัดในการแบ่งกลุ่ม โดยที่ค่าดัชนีมวลกาย ที่ 23 กก. เมตร หมายถึง ภาวะน้ำหนักเกิน และค่าดัชนีมวลกายที่ 25 กก. เมตร แสดงว่า อ้วน (ข้อมูลตารางที่ 1) ตารางที่ 1 ค่าดัชนีมวลกาย ( BMI) ตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและค่าจุดตัดของประชากรเอเชีย ดัชนีมวลกาย (กก. เมตร) กลุ่ม เกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ( 1998) เกณฑ์สำหรับประชากรเอเชีย น้ำหนักน้อย < 18. 5 < 18. 5 น้ำหนักปกติ 18. 5 – 24. 99 18. 5 - 22. 99 น้ำหนักเกิน ≥ 25 ≥ 23 pre-obese 25 – 29. 99 เสี่ยง (at risk) 23 - 24.
เมตร) โดยความชุกสูงสุดในกลุ่มอายุ 45-59ปี ความชุกลดลงในกลุ่มผู้สูงอายุและต่ำสุดในกลุ่มอายุ 80ปีขึ้นไป เส้นรอบเอว เส้นรอบเอวของประชากรชายและหญิงอายุ 15 ปีขึ้นไป เฉลี่ยเท่ากับ 79. 9 ซม. และ79. 1 ซม. ตามลำดับ ในกลุ่มอายุเดียวกันผู้ชายมีเส้นรอบเอวใหญ่กว่าผู้หญิงทุกกลุ่มอายุ โดยทั่วไปทั้งชายและหญิงมีขนาดเส้นรอบเอวเล็กสุดในกลุ่มอายุ 15-29 ปี และเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นโดยสูงสุดในกลุ่มอายุ 45–59 ปี จากนั้นเส้นรอบวงเอวมีขนาดลดลงในวัยผู้สูงอายุ รูปที่ 2 ค่าเฉลี่ยเส้นรอบเอว (ซม. ) ของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามกลุ่มอายุและเพศ ข้อมูลจาก รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ. ศ. 2551-2 โดยสำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ที่มา: Food and Nutrition Policy for Health Promotion
ศ. 2547 พบว่า ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายของคนกรุงเทพฯ สูงที่สุด รองลงมาคือภาคกลาง และต่ำสุดที่ภาคเหนือ เมื่อคิดเป็นช่วงอายุ พบว่าตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปจะมีดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้น และหลังจากอายุ 60 ปี ก็จะมีดัชนีมวลกายลดลงทั้งเพศชายและเพศหญิง ที่มา:, เว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
65 เมตร (165 เซนติเมตร) ค่าดัชนีมวลกาย = 68 / (1. 65 x 1. 65) = 24. 98 และเมื่อได้ค่าดัชนีมวลกายแล้วก็จะนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของค่าดัชนีมวลกายเพื่อคัดกรองว่าผู้ป่วยนั้นอยู่ในคนกลุ่มใด ค่ามาตรฐานของดัชนีมวลกายเป็นอย่างไร? โดยปกติคนเอเชียจะใช้ค่ามาตรฐานดัชนีมวลกายเท่ากัน ซึ่งค่ามาตรฐานของดัชนีมวลกายเหล่านี้จะเป็นเกณฑ์โดยคร่าว ๆ เท่านั้น และอาจแบ่งเป็น 4 ระดับใหญ่ ๆ คือ ผอม น้อยกว่า 18. 5 ปกติ 18. 5-22. 9 อ้วนเล็กน้อย 23. 0-24. 9 อ้วนปานกลาง (อ้วนระดับ 1) 25. 0-29. 9 อ้วนมาก (อ้วนระดับ 2) มากกว่า 30. 0 หรือในบางแห่งอาจแยกย่อยลงไปอีกตามเกณฑ์ดังนี้ ผอมมาก (ผอมระดับ 3) น้อยกว่า 16. 0 ผอมปานกลาง (ผอมระดับ 2) 16. 0-16. 9 ผอมเล็กน้อย (ผอมระดับ 1) 17. 0-18. 4 น้ำหนักเกิน มากกว่าหรือเท่ากับ 23. 0 ดัชนีมวลกายสามารถระบุความเสี่ยงสุขภาพได้หรือไม่?
**ใส่ความสูง (Height) และน้ำหนัก (Weight) แล้วกดที่ Calculate** สูตรหาค่า BMI คือ [ดัชนีมวลกาย= น้ำหนักตัว / ความสูง ยกกำลังสอง] น้อยกว่า 16 น้ำหนักน้อยระดับ 3 น้ำหนักน้อยระดับ 2 น้ำหนักน้อยระดับ 1 น้ำหนักปกติ ผู้ชายสมส่วนที่ 22-23 ผู้หญิงสมส่วนที่ 19-20 น้ำหนักเกิน ภาวะน้ำหนักเกิน (Overweight) โรคอ้วนระดับ 1 โรคอ้วนระดับ 2 โรคอ้วนระดับ 3 โรคอ้วน (Obesity) เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, ข้อเข่าเสื่อม, นิ่วในถุงน้ำดี, ตับอักเสบจากไขมันสะสม, เบาหวาน, ฯ Q1: ค่า BMI ถูกสร้างมาเพื่ออะไร? A: BMI เป็นค่าที่กำหนดขึ้นมาใช้ในทางการแพทย์ซึ่งการแปลผลจะมุ่งเน้นที่ความเสี่ยงต่อสุขภาพเมื่อดัชนีมวลกายสูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์มากกว่าที่จะใช้เพื่อประเมินรูปร่าง(Body shape)หรือความดึงดูดทางเพศ(Sex appeal or attractiveness)นะค่ะ นั่นคือ ผู้ชายที่ BMI > 18. 5 kg/m2 หลายคนอาจจะมีรูปร่างผอมอยู่ (Skinny or thin body) หรือผู้หญิงที่ BMI > 21 kg/m2 อาจจะอวบๆ ท้วมๆ ดังนั้นถ้าคุณจะใช้ BMI เพื่อดูว่ารูปร่างสมส่วนหรือไม่ ขอแนะนำดังนี้ค่ะ ผู้ชาย: รูปร่างจะดูมีกล้ามเนื้อ ได้สัดส่วน ควรมี BMI 22 – 23 kg/m2 (+/- 0.
99 อ้วนระดับ 1 30 - < 34. 99 25 – 29. 99 อ้วนระดับ 2 35 - < 39. 99 ≥ 30 อ้วนระดับ 3 ≥ 40. 00 - 2. เส้นรอบเอว (waist circumference) เป็นค่าที่ได้จากการวัดรอบเอว ด้วยสายวัดมาตรฐาน โดยวัดรอบเอวระดับตำแหน่งกึ่งกลางของข้างเอวระหว่างขอบล่างของซี่โครงล่างกับขอบบนของ iliac crest ให้สายรอบเอวแนบรอบเอว และอยู่ในแนวขนานกับพื้น ซึ่งภาวะอ้วนลงพุง หมายถึง ความยาวเส้นรอบเอว ≥ 90ซม. ในชาย และ ≥ 80ซม. ในหญิง จากผลการสำรวจ พบว่า ค่าเฉลี่ยของดัชนีมวลกายในประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป เฉลี่ยเท่ากับ 23. 1 กก. เมตร ในผู้ชายและ 24. 4 กก. เมตร ในผู้หญิง ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้นตามอายุ จนมีค่าสูงสุดในกลุ่มอายุ 45–59 ปี หลังอายุ 60 ปีขึ้นไปดัชนีมวลกายลดลง และต่ำสุดเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป และเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายตามภาคพบว่าผู้ชายและผู้หญิงในกรุงเทพฯ มีดัชนีมวลกายสูงที่สุด รองลงมาคือภาคกลาง รูปที่ 1: ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกาย (กก. เมตร) ในประชากรไทยอายุ 15ปีขึ้นไป จำแนกตามกลุ่มอายุและเพศ ความชุกของภาวะอ้วนในประชากรไทยอายุ 15ปีขึ้นไป พบว่าเพศชายร้อยละ 28. 3และเพศหญิงร้อยละ 40. 7จัดว่าอ้วน (ดัชนีมวลกาย ≥25กก.